การพัฒนาบุคลากร ตอนที่ 4 : เป็นเรื่องของจิตสำนึกที่ดี
ซึ่งมีทั้งหมด 5 ข้อ สำหรับในวันนี้ จะนำเสนอเพียง 2 ข้อ
เมื่อได้อ่านข้อความด้านล่าง ซึ่งระบุว่าจิตสำนึกที่ดีนั้นมีอะไรบ้างแล้ว ขอให้ทุกท่านโปรดสำรวจตนเอง โดยทำใจให้เป็นกลาง
ระวัง : อย่าเข้าข้างตัวเอง ไม่มีใครสมบูรณ์แบบในทุกเรื่อง (สมบูรณ์แบบแค่หนึ่งหรือสองเรื่องยังยากเลย) แต่ทุกคนก็สามารถพัฒนาทุกเรื่องให้ดีขึ้นได้ตลอดเวลา ดังนั้น จงอย่าหยุดพัฒนา
ข้อไหนที่ทำได้ดีอยู่แล้วก็จงรักษาไว้ และ พยายามพัฒนาให้ดียิ่งขึ้นไปเรื่อยๆ
ที่สำคัญคือ ข้อไหนที่เรายังทำได้ไม่ดี จะต้องเร่งปรับปรุงโดยเร็วที่สุด
จิตสำนึกที่ดีข้อที่ 1. มีวินัยในตนเอง เสาหลักที่เข้มแข็งของบ้านทำให้ส่วนอื่นๆของบ้านตั้งอยู่ร่วมกันได้ฉันใด ความมีวินัยของคนก็จะทำให้งานอื่นๆ สำเร็จร่วมกันได้ฉันนั้น
วินัยในตัวเองที่ทุกคนจะต้องมีก็คือ
1.การตรงต่อเวลา
2.การตรงต่อคำพูดของตนเอง
3.การตรงต่อหน้าที่ พร้อมด้วยความรับผิดชอบ
4.การทำงานให้ดีที่สุดทุกครั้งอย่างสม่ำเสมอ และ มีน้ำใจช่วยเหลือซึ่งกันและกัน
5.การเป็นตัวอย่างที่ดีกับคนอื่น ทั้งเรื่องงานและเรื่องส่วนตัว
6.การปฎิบัติตามกฏระเบียบหรือกฎกติกาขององค์กรหรือของสังคม ไม่คิดเอาเปรียบคนอื่น
7.การรู้จักประหยัด เก็บออมอย่างสม่ำเสมอสร้างฐานะตนเองได้
ตัวหัวหน้างานนั้นจะต้องมีวินัยเข้มงวดมากกว่าคนอื่น เป็นตัวอย่างที่ดีกับคนอื่น ลูกน้องก็จะเป็นคนที่มีวินัยตาม การทำงานก็จะได้ผลดีตามไปด้วย
จิตสำนึกที่ดีข้อที่ 2.ความใส่ใจในความคาดหวังของลูกค้า เวลาที่เราไปซื้อของ เราก็เป็นลูกค้าคนหนึ่งเราอยากได้สินค้าอย่างไร ลูกค้าที่ซื้อ ทั้งสินค้าและบริการ ที่เราขาย ก็ต้องการอย่างนั้น!!! ขณะที่เราทำงานก็ต้องนึกถึงสิ่งที่ลูกค้าคาดหวังอยู่เสมอๆ
1.เราต้องการเต็มปริมาณ...ลูกค้าก็ต้องการสินค้าจากเราเต็มปริมาณ
2.เราต้องการคุณภาพดีทุกชิ้น...ลูกค้าก็ต้องการดีทุกชิ้น
3.เราต้องการตรงเวลา...ลูกค้าก็ต้องการตรงเวลา
4.เราต้องการความสะอาด...ลูกค้าก็ต้องการความสะอาด
5.เราต้องการห่อสวยๆงามๆ...ลูกค้าก็ต้องการสวยๆ
6.เราต้องการของดี ราคาถูกๆ...ลูกค้ายิ่งต้องการถูกกว่า
7.เราประทับใจในบริการที่ดีของคนขาย...ลูกค้าก็ต้องการความประทับใจจากเรา
8.เราไม่ประทับใจคนขายที่ไม่ซื่อสัตย์ เราก็ไม่อยากซื้ออีก...ถ้าเราไม่ซื่อสัตย์ ลูกค้าก็ไม่ชอบ ไม่ซื้อจากเราเช่นกัน
ถ้าจะคิดให้ลึกซึ้งขึ้นไปอีก ก็มาดูกันต่อว่า...เงินเดือน ค่าจ้างที่เราได้รับอยู่ทุกวันนี้เป็นเงินของใคร?
หลายคนตอบว่า เป็นเงินขององค์กร...ผิดครับ
หลายคนตอบว่า เป็นเงินของธนาคาร เพราะสิ้นเดือนทีไรไปกดเอทีเอ็มก็ได้เงินแล้ว...ยิ่งผิดหนักเข้าไปอีก
คำตอบที่ถูกต้องก็คือ
"เป็นเงินของลูกค้าที่พอใจในคุณภาพ + พอใจในบริการ + พอใจในการส่งมอบ + พอใจในความสะอาด ของสินค้าและบริการของเรา เขาจึงสั่งซื้อผ่านองค์กร องค์กรก็รับเงินมาแบ่งเป็นค่าจ้างให้กับพวกเราอีกต่อหนึ่ง"
ถ้าเราทำงานดี ลูกค้าก็พอใจ สั่งซื้อต่อเนื่อง เราก็มีรายได้อย่างต่อเนื่อง
ถ้าเราทำไม่ดี ลูกค้าก็ไม่ซื้อ องค์กรไม่มีงานให้เราทำ เราก็ไม่มีรายได้
อยากให้เข้าใจว่า เงินที่เราซื้อข้าวกิน จ่ายค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าส่งลูกเรียนหนังสือ ค่ารักษาพยาบาลพ่อแม่ที่เจ็บป่วยในทุกวันนี้ ล้วนแต่เป็นเงินของลูกค้าทั้งสิ้น...
"ลูกค้าจึงเป็นผู้มีพระคุณกับเรา เราจึงต้องตอบแทนผู้มีพระคุณของเรา ด้วยการขายสินค้าและบริการที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าของเรา"
หมายเหตุ : ขอให้พวกเราทุกคนเข้าใจด้วยว่า สิ่งที่นำเสนอในการพัฒนาบุคลากรนี้ มีเจตนาให้พวกเราดูตนเอง
และพัฒนาตนเองเป็นสำคัญ มิใช่นำไปวิพากษวิจารณ์ผู้อื่น อาจนำไปตักเตือนผู้อื่นได้ แต่ขอให้เป็นไปด้วยเจตนาที่
ดี และ มีวิธีการที่เหมาะสม
สญชัย
hrbg
โพสต์โดย ตำแหน่ง
แผนก
